top of page

ยุทธเลิศ สิปปภาค | ผู้กำกับภาพยนตร์

หลังวิกฤตต้มยำกุ้งปี 1997 ผมได้ถ่ายภาพผู้กำกับดาวรุ่งที่กำลังมาแรงในวงการภาพยนตร์ไทยหลายคน ตอนนั้นหนังไทยกำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งสวนทางกับเศรษฐกิจโดยรวม ความหวัง ความคิดสร้างสรรค์ ความกล้าของคนหนุ่ม เกิดขึ้นพร้อมๆ กันเมื่อความสิ้นหวังครอบคลุมบรรยากาศของสังคมเอาไว้ ตอนนั้นแม้ว่าจะเศร้าแต่บรรยากาศยังมีความหวัง มีแสงสว่างให้เห็น




มีผู้กำกับคนหนึ่งห้าวกว่าคนอื่นๆ ชื่อ ยุทธเลิศ สิปปภาค เขาทำหนังเรื่องแรกได้เงินเกินร้อยล้าน (มือปืน/โลก/พระ/จัน , 2001) มีสไตล์เป็นของตัวเอง สดใหม่ไม่เหมือนใคร ภิญโญสัมภาษณ์เขาถึงสูตรสำเร็จการทำหนังให้ได้ร้อยล้าน เขาให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจ ประโยคหนึ่งที่ติดอยู่ในความจำ


- ประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องไร้สาระ


เพราะไม่มีใครมีสูตรสำเร็จอีกต่อไปในการทำหนังให้ได้เงิน แม้แต่กูรูที่คร่ำหวอดในวงการมาหลายสิบปี ยุทธเลิศบอกว่าต้องคิดใหม่ทำใหม่ มีความกล้าหาญ หันหลังให้กับประสบการณ์ที่ผ่านมา แล้วเริ่มต้นใหม่


ผมชอบสไตล์ฝีปากกล้าทำได้จริงของเขา เขาทำหนังหลายแนว แอคชั่น โรแมนติค ผี ตลก เขาทำได้ดี น่าติดตาม


จำได้ว่านัดถ่ายภาพเขาที่ดาดฟ้าบนตึกย่านสีลมที่เขาพักอยู่ในอพาร์ทเมนท์เล็กๆ เราใช้เวลาไม่มาก แต่หลายเฟรมน่าสนใจ ผมชอบอารมณ์คุกรุ่นสไตล์ angry young man ของเขา


สิบปีหลังมานี้และอีกหลายปีต่อไปข้างหน้า วิกฤตเดิมทางการเมือง สังคม และวิกฤตใหม่ทางเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม คนจำนวนมากปั่นป่วน สั่นคลอน กับอาชีพการงาน ไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบ ไม่มีใครเลย ทุกอย่างล้วนเหนือความคาดหมาย มองไปข้างหน้ายังไม่เห็นความชัดเจน เหมือนฝุ่นกำลังตลบอบอวล เมื่อฝุ่นจางเราก็ยังไม่รู้ว่าภาพข้างหน้าจะเป็นอย่างไร บางอาชีพหายไปต่อหน้า ความเชี่ยวชาญที่ฝึกฝนเคี่ยวกรำมาหลายสิบปีเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย


ประโยคเดิมของคนห้าวกลับมาอีกครั้ง "ประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องไร้สาระ"

ผิดกับยี่สิบกว่าปีก่อนตรงที่ว่า ตอนนี้ความสิ้นหวังครอบคลุมชีวิตเอาไว้แต่ยังไม่มีแสงสว่างให้เห็น


สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือเริ่มต้นใหม่


#ยุทธเลิศสิปปภาค #ผู้กำกับภาพยนตร์ #ateliersupachai #supachai #portrait #rolleiflex #film #blackandwhite #ศุภชัย

5 views0 comments
bottom of page