top of page

CLOSE UP เอื้อบุญ จงสมชัย

Updated: Oct 10, 2020



เอื้อบุญเป็นหญิงสาววัยสามสิบเศษ เกิดและเติบโตที่กาฬสินธุ์ก่อนที่จะเดินทางมาเรียนอักษรศาสตร์ที่นครปฐม จากนั้นทำงานเป็นนักเขียนในแวดวงสื่อมวลชน จนกระทั่งรับตำแหน่งบรรณาธิการออนไลน์ที่ a day


ตั้งแต่เด็กเธอชอบอ่านหนังสือ คอลัมน์ของเกจินู้ด นิวัติ กองเพียร เสเพลบอยชาวไร่ ของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ในมติชนสุดสัปดาห์เธออ่านมาตั้งแต่เด็ก อ่านมาก่อนที่จะอ่านวรรณกรรมเยาวชนเสียด้วยซ้ำ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ประสบการณ์และรสนิยมการอ่านของเธอจะกว้างขวางหลากหลาย ความรับผิดชอบในฐานะบรรณาธิการของเธอจึงมีมาตรฐานสูง และด้วยความคาดหวังของเธอเอง นอกจากวรรณกรรมเธอยังสนใจประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมจากประสบการณ์ตรงที่การเข้าถึงทางการแพทย์ยังยากลำบาก ซึ่งเธอคิดว่ามันเป็นปัญหาโครงสร้างที่โยงไปถึงการเมืองที่เป็นรากฐานของการบริหารประเทศ


เธอจึงสนใจการเมืองเพราะเพื่อเรียกร้องมาตรฐานการครองชีพที่ดี เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้เธอทำเพื่อตัวเธอเอง

อาหมิงเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง และ19 กันยายนที่ผ่านมาเธอก็อยู่ในกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวที่สนามหลวง


*

When you try your best, but you don't succeed

When you get what you want, but not what you need

When you feel so tired, but you can't sleep

Stuck in reverse


And the tears come streaming down your face

When you lose something you can't replace

When you love someone, but it goes to waste

Could it be worse?


ผมอยากรู้ว่าหากต้องไปยืนอยู่บนชานชาลารถไฟฟ้าเหนือสี่แยกที่รถพลุกพล่าน เบื้องหน้าว่าเปล่าจะรู้สึกอย่างไร คงเทียบไม่ได้กับคนที่มีปัญหาในหัวใจและสงสัยในความเป็นตัวตน แต่คงพอจะได่รูว่าเขาเห็นอะไรบนนั้น ท้องฟ้ามืดหมาดฝน สายลมที่พัดมาเอื่อยๆ แสงระยิบของตึกสูง แสงไฟหน้ารถที่อยู่ต่ำลงไปกำลังเคลื่อนย้ายไปตามถนนสีดำวาวจากหยดน้ำฝน เสียงแว่วของผู้คนที่ห่างไกลออกไปทุกทีจนกลายเป็นความเงียบ เสียงในหัวของตัวเอง และการตัดสินใจ


Fix you เกือบจะเป็นเพลงสุดท้ายที่เอื้อบุญ หญิงสาวทำงานเก่ง ความรู้ดี สวยและมีเสน่ห์จะได้ฟังก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงมาจากชานชาลารถไฟฟ้า หากค่ำวันนั้นไม่มี รปภ. ที่เดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆ คำพยากรณ์ให้รอแสงตะวันยามเช้า และหากเธอไม่ได้สติเสียก่อน


หลังจากวันที่เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอตัดสินใจไปปรึกษาหมอซึ่งต่อมาพบว่าเธอเป็นโรคซึมเศร้า อาหมิงตัดสินใจรับการรักษาด้วยยา เธอบอกว่ารู้สึกดีกับการยอมรับโรค เพราะในอีกมุมหนึ่งอธิบายได้ว่าเธอไม่ได้สูญเสียความมั่นใจตัวเอง เพียงแต่อาการของโรคทำให้เธอผิดแปลกไปจากที่ควรจะเป็น


แต่อาการซึมเศร้ามันมาจากไหน เธอจำได้แม่นยำว่าเป็นวันที่ 4 เมษายน 2562 ในวันที่เปราะบาง ที่ความรักและการงานทำให้เธออกหักในเวลาไล่เลี่ยกัน ความมั่นใจในตัวเองของเธอเหมือนความแกร่งของกำแพงที่เมื่อถูกกัดเซาะจึงพังทลาย เธอผิดหวัง ร้องไห้ไม่หยุด และสูญเสียความเป็นตัวเอง



ผมนัดสัมภาษณ์อาหมิงในวันที่เธออาการดีขึ้นจากทั้งโรคซึมเศร้า และอาการแพนิค และที่ดีอีกอย่างคือระยะสองเดือนที่ผ่านมาอาการนอนไม่หลับของเธอคล้ายจะดีขึ้น เธอไม่ต้องพึ่งยานอนหลับ และพบความสุขของอาการง่วงนอน หลังจากที่เธอกลับไปพักผ่อนกับครอบครัวที่กาฬสินธุ์


ในอพาร์ทเมนท์ยามบ่ายที่แสงส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ มีต้นไม้ในกระถางน้อยใหญ่เรียงเต็มระเบียง ต้นไม่แต่ละต้นมีชื่อของมันเองที่ถูกเรียกเหมือนลูกสาว ผมชอบโปสเตอร์หนังที่ติดอยู่ที่หัวนอน อาหมิงบอกว่าเพิ่งจะติดเมื่อไม่กี่วันมานี้เพื่อให้เข้ากับผ้าปลอกหมอนสีแดงอมส้ม และผ้าห่มสีขาวสะอาด หันมองไปที่โปสเตอร์ภาพยนตร์บนหัวเตียง Starting Over ดูเหมือนจะเข้ากับสถานการณ์ในชีวิตที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทั้งชีวิตส่วนตัว และชีวิตการทำงาน


ชีวิตที่เคยผ่านการคิดจะกระโดดลงไปบนความว่างเปล่า ยอมรับความพังทลายของตัวตนจากบาดแผลจากความรัก อกหักจากการทำงาน และการคาดหวังในตัวเองว่า “ฉันดีพอหรือยัง” วันเวลาผ่านไปเธอยอมรับและรู้จักตัวเองมากขึ้น เริ่มต้นชีวิตครั้งใหม่ ในระหว่างสนทนาผมรู้สึกดีที่อาหมิงยิ้มและบอกว่า เธอกลับมามีความศรัทธาในความรักและความเป็นมนุษย์อีกครั้ง แม้ตอนนี้ยังไม่มีความรักอย่างที่คาดหวัง เหงาบ้างในบางเวลา แต่ก็เข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียว


Lights will guide you home

And ignite your bones

I will try to fix you


1,417 views0 comments
bottom of page