เมื่อได้รับแอสซายเมนท์ไปถ่ายภาพพอร์ทเทรทนักละคร นักจิตบำบัด ในหัวก็ปรากฏภาพตัวเองนั่งกึ่งนอนอยู่บนเดย์เบด ในบรรยากาศสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกอย่างอยู่ในที่ทางของมัน มีหน้าต่างบานใหญ่เห็นวิวที่ทำให้จิตใจสงบ โดยมีนักจิตบำบัดนั่งจดนั่นจดนี่ไม่ห่างออกไป แล้วผมก็จะพูดอะไรๆ ไปเรื่อยๆ
เปล่าหรอกเหตุการณ์แบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง นั่นมันเป็นฉากในซีรีส์ Perfume จากเยอรมัน ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง Das Parfum โดย Patrick Sunkind
ความจริงก็คือผมไปถ่ายภาพดุจดาว วัฒนปกรณ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เธอทำงานเป็นนักจิตบำบัด (ด้วยการเคลื่อนไหว)
ผมไม่ได้รู้โดยในรายละเอียดว่าวิธีการทำงานของเธอคืออะไร แต่มันเป็นการช่วยให้คนๆ หนึ่งเข้าใจและยอมรับตัวเองมากขึ้นผ่านการเคลื่อนไหว ผมรู้เท่านั้นเอง
ในห้องทำงานของเธอนั้นไม่มีหน้าต่าง และมากไปกว่านั้นคือห้องนั้นมืดเพราะผนังห้องสีเข้ม มีเพียงไฟโดมดวงเดียวที่ให้แสงสว่างในห้อง ผมพลันนึกถึงห้องมืดที่คุ้นเคยแต่ห่างหายไปจากมันร่วมยี่สิบปี ผมรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่อมาอยู่ในห้องที่ควบคุมแสงและความมืดจากการที่ต้องเดินผ่านโซนโรงพยาบาลที่สว่างไสวไปด้วยไฟนีออนเพื่อให้เห็นทุกอย่างชัดเจนและบ่งบอกถึงความสะอาดไม่มีอะไรซ่อนเร้น ยกเว้นเชื้อโรคที่ล่องลอยอย่างอิสระในอากาศ
*
เหมือนพิธีกรรมที่ผมทำมาตลอดของการทำงานคือฟังสิ่งที่เธอพูดผ่านการสัมภาษณ์ สังเกตท่าทาง มองดวงตากลมโต รอยยิ้ม ภาษากาย และรับรู้ถึงน้ำเสียง จากนั้นก็ถึงเวลาของผม
ผมให้เธอนั่งอยู่บนอาร์มแชร์ที่เธอนั่งอยู่ ขยับไฟโคมเข้ามาใกล้ ดูเงาที่เกิดขึ้นบนใบหน้า กางขาตั้งกล้อง วางเฟรม วัดแสง
“1 วินาทีนะครับ” ผมบอกดุจดาว นั่นคือเวลาสำหรับสปีดชัตเตอร์ที่ปล่อยให้แสงผ่านจากเลนส์ที่ f.8 แล้วไปบันทึกอยู่บนแผ่นฟิล์ม
“ค่ะ” เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงของผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง
ผมถ่ายภาพไป 12 ภาพโดยขยับเฟรมเพียงเล็กน้อย
เฟรมนี้สำหรับการเป็นนักบำบัด
แล้วก็นึกถึงอีกบางเฟรมที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว แต่ด้วยเวลา สถานที่ ชุดที่ดุจดาวแต่งมาวันนัน และการเตรียมตัวของเธอ ไม่พร้อมที่จะเคลื่อนไหวใดๆ
การถ่ายภาพจึงหยุดไว้เพียงแค่นั้น
*
เรานัดกันอีก 3-4 วันต่อมาที่เธอต้องเตรียมการแสดงชุดหนึ่งที่หอศิลป์ฯ กรุงเทพฯ - Make Love / Not War (รักและ / หรือรบ)
ลืมบอกไปว่าผมกำลังเล่าการทำงานที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2561
ผมไปก่อนเวลาเพื่อเดินดูกำแพงโล่งๆ สักผืนที่กว้าง มีแสง และสงบพอที่จะถ่ายภาพ
เมื่อถึงเวลาเธอเดินพ้นโค้งอาคารในชุดทะมัดทะแมง สะพายเป้ และขอเวลาสัก 10 นาทีพักเหนื่อยด้วยการดื่มเบียร์หนึ่งกระป๋อง พลางหยิบยื่นให้ผมหนึ่งกระป๋อง
เราคุยกันพอหายเหนื่อยและเธอบอกว่าวันนี้จะเป็นการแสดงรอบแรก อยากให้ได้ไปดูเธอแสดงหากมีเวลา
ผมรับปาก
เมื่อพร้อม ผมบอกเธอว่า อยากให้เธอคิดท่าเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องให้ผมถ่ายภาพสัก 12 เฟรม (นึกถึงภาพชุดนี้ไว้ว่าน่าจะเหมือน 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร สุดยอดวิชาของพรรคกระยาจก ถ่ายทอดจากปรมาจารย์เฉียวฟงมาถึงก๊วยเจ๋ง - มังกรหยก, กิมย้ง ประพันธ์)
บอกเธอว่าเมื่อถึงจังหวะที่เธอหยุด ผมจะถ่ายภาพไว้ โดยให้เธอค้างไว้จนผมบอกว่า “โอเค” จึงเริ่มมูฟเม้นท์ต่อไป
ที่ต้องบอกอย่างนั้นเพราะผมใช้สปีดชัตเตอร์ต่ำ ถ้าจำไม่ผิดราวๆ 1/4 วินาที
การทำงานราบรื่น โดยทำ 2 รอบ ผมวางเฟรมเต็มตัวไว้ครั้งหนึ่ง และครึ่งตัวอีกครั้งหนึ่ง
ผมได้สิ่งที่ผมต้องการในระยะเวลาไม่เกิน 10 นาที ดังที่เห็นในภาพประกอบ
แต่สิ่งที่ดุจดาวมอบให้และไม่ได้อยู่ในเฟรมคือความอ่อนช้อยและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน
มันถูกสื่อออกมาทางท่าทาง ร่างกาย และความร่วมมือของคนที่ฝึกฝนขัดเกลาตัวเองทั้งใจและร่างกาย
พลังเหล่านั้นหมุนเวียนและเดินทางมาหาผมเหมือนคลื่นที่แผ่ออกมาผ่านอากาศ
ในขณะที่ผมจดจ่อกับท่าร่างผ่านวิวฟายเดอร์ พลางถามตัวเองว่าไม่ได้อินกับนิยายกำลังภายในมากไปใช่ไหม
Medium Format 6 x 6
Camera Rolleiflex 3.5F
Film Ilford HP5 plus
Developer ID - 11
*
ดุจดาว วัฒนปกรณ์
Dujdao Vadhanapakorn
ภาพพอร์ทเทรท โดย ศุภชัย เกศการุณกุล
Portrait by Supachai Ketkaroonkul
Comments