เคยดูหนังของไฉ้ หมิง เหลียง 2-3 เรื่อง เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วตอนที่มีหนังหลากหลายมาฉายในกรุงเทพภายใต้เทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ผมสนใจเพราะชื่อเสียงเขาที่โด่งดังในเรื่องความช้า และเป็นหนังนอกกระแส ตอนนั้นกำลังหนุ่มแน่นสนใจหนังแปลกๆ ใหม่ๆ ก็ไปดูกับเขาด้วย แต่แล้วก็พบตัวเองนั่งหลับเพราะความช้าของการเล่าแบบเฮียไฉ้
หนังที่เคยดูเช่น Goodbye Dragon Inn (2003) เพราะมันเกี่ยวกับโรงหนัง ผู้กำกับหลายคนมันกำกับหนังโดยมีฉากหลังเป็นโรงหนัง มันเหมือนโปสการ์ดที่เขียนส่งให้ตัวเอง, the Wayward Cloud (2005) ที่ดูเพราะมันเกี่ยวกับดาราหนังโป๊ และโปสเตอร์ที่มีแตงโมวางไว้ที่หว่างขานักแสดงหญิงทำให้คิดอะไรไปไกล, แล้วก็ I don't want to sleep alone (2006) น่าจะดูไป 2 รอบ ล่าสุดคือเมื่อเดือนที่แล้วที่สมาคมฝรั่งเศส
คราวที่ดู I don't want to sleep alone ครั้งที่สองนี้ ผมเตรียมตัวไปอย่างดี คราวนี้ไม่หลับ และเก็บรสชาติของหนังไว้หลายอย่าง จนตกหลุมรักหนังเรื่องนี้ และสไตล์ของเฮียไฉ้ ที่เนิบนาบ ลงรายละเอียด พูดน้อย โดยปล่อยให้ตัวละคร บรรยากาศ เหตุการณ์ต่างๆ เล่าเรื่องของมันไป รสนิยมด้านภาพและบรรยากาศนั้นเป็นจริงกึ่งฝัน หรือไม่ก็เป็นความฝันที่เหมือนจริง
เมื่อได้ฟังประวัติชีวิตและการทำงานของเขา ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การกลับไปทำหนังที่มาเลเซียหลังจากเดินทางออกนอกประเทศเป็นเวลาหลายปี ทำให้ I don't want to sleep alone เป็นเหมือนจดหมายรักที่เขียนเพื่อปรับความเข้าใจระหว่างเขากับมาเลเซีย ซึ่งในจดหมายรักฉบับนี้มีลีลาที่น่าประทับใจ มีรหัสที่ให้ขบคิด มีความเป็นจริงให้ทำความเข้าใจ มีความเจ็บปวดให้ซึมซับ และมีตลกขื่นๆ
เฮียมาถึงที่นัดหมายด้วยเสื้อยืดสีดำ กางเกงดำ กระเป๋าผ้าสีดำ และรองเท้าแตะสีดำ การพบกับเฮียไฉ้ตัวเป็นๆ ฟังเฮียตอบสัมภาษณ์ทำให้รู้จักเขามากขึ้น และรู้สึกประทับใจในความเป็นเฮีย
เฮียไฉ้เป็นคนง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตอง แต่เนี้ยบๆ เฮียนิยมความสมบูรณ์แบบ ถึงกับเอ่ยปากตำหนิการเตรียมอุปกรณ์และการใช้เวลากับทีมงานเมื่ออุปกรณ์มีปัญหาเล็กน้อย ทำให้เสียเวลา แต่เมื่อเวลาผ่านไป เฮียไฉ้ก็กลับมาเป็นผู้ใหญ่นิ่งๆ เงียบๆ และมีรอยยิ้ม
การถ่ายภาพในนาทีแรกเฮียไม่อยากจะโพสต์มาก เฮียบอกว่าอยากได้อะไรที่เป็นธรรมชาติ ไม่อยากโพสต์ ไม่อยากทำท่าแปลกๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้บอกให้เฮียทำอะไรมากว่าที่เฮียอยากจะทำ เพียงแต่ให้หันหาแสงบ้าง อยากให้มองไปในทิศทางหนึ่งๆ บ้าง ซึ่งเฮียก็ให้เกียรติคนทำงาน และให้ความร่วมมืออย่างดี ในนาทีหลังๆเฮียยิ้มให้กล้องบ้าง ซึ่งทำให้บรรยากาศที่เงียบๆ เหมือนหนังของเฮียที่ปล่อยให้มีดนตรีประกอบบ้าง
ผมชอบหนังของเฮียมากฮะ และชอบบุคคลิกของเฮียด้วย
หนังของเฮียจะต้องใช้พลังในการดูมาก แต่แล้วพลังที่ถูกใช้ออกไปกลับได้รับคืนมาเมื่อดูหนังของเฮียจบ
น่าแปลกตรงที่พลังนั้นยังอยู่ และหนังของเฮียยังตกค้างอยู่ในความทรงจำของผมจนถึงนาทีนี้
ไฉ้ หมิง เหลียง - ผู้กำกับภาพยนตร์
ภาพพอร์ทเทรท โดย ศุภชัย เกศการุณกุล
Medium Format 6 x 6
Ilford Hp 5
Rolleiflex
ปล. ผมอยากดูหนังเรื่องอื่นๆ ของเฮีย แต่นั่นแหละหนังของเฮียเหมาะจะดูบนจอหนังในห้องมืดๆ
Comments